อยากถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ควรไปที่ไหนไม่ไกลจาก กทม.

การถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติกำลังเป็นที่นิยมสำหรับคู่รักที่กำลังเตรียมตัวแต่งงาน เพราะนอกจากจะได้ภาพสวยๆ แล้ว ยังเป็นการเก็บความทรงจำดีๆ ร่วมกันก่อนถึงวันสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก และรับรองว่าภาพที่ได้จะสวยเกินคาด

7 สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ การันตีภาพสวยทุกมุม

สำหรับคู่รักที่กำลังมองหาโลเคชันถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ เรามีสถานที่แนะนำที่ห้ามพลาด ทั้ง 7 แห่งนี้มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นวิวทะเล ภูเขา ทุ่งดอกไม้ หรือแหล่งน้ำ รับรองว่าจะได้ภาพสวยครบทุกอารมณ์ตามที่คู่รักต้องการก่อนเลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน

1. อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า จ.ระยอง

เขาแหลมหญ้าเป็นสถานที่ในฝันสำหรับการถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติติดทะเล ด้วยวิวชายหาดสวยงามและน้ำทะเลใสสีฟ้า จุดเด่นของที่นี่คือถนนที่ทอดยาวออกไปสู่ทะเลพร้อมศาลาสีขาวที่ปลายทาง และ Sky Walk กระจกใสที่ให้ความรู้สึกเหมือนลอยอยู่เหนือทะเล ภาพที่ได้จะมีความโรแมนติกและดูเป็นธรรมชาติอย่างที่สุด

2. อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี

อ่างเก็บน้ำบางพระเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมสำหรับถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ หากมาช่วงต้นปีจะได้พบกับดอกตะแบกสีม่วงอมชมพูบานสะพรั่งเป็นทางยาว นอกจากนี้ยังมีเนินหญ้าสีเขียวที่ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า และวิวภูเขาในระยะไกล ถ่ายช่วงบ่ายแก่ถึงเย็นจะได้แสงสวยละมุนคล้ายอยู่ต่างประเทศ

3. ทุ่งทานตะวัน จ.ลพบุรี

หากคู่รักต้องการภาพพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติที่สดใสมีชีวิตชีวา ทุ่งทานตะวันที่ลพบุรีคือคำตอบ ที่นี่มีทุ่งดอกทานตะวันขนาดใหญ่ให้คุณได้จูงมือกันวิ่งเล่นท่ามกลางดอกไม้สีเหลืองอร่ามและแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ช่วงที่ดีที่สุดคือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม ซึ่งดอกทานตะวันจะบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง

4. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่เกิน 3 ชั่วโมง ที่นี่มีวิวหลากหลายตั้งแต่เขื่อนเก็บน้ำกว้างใหญ่ ภูเขาไกลสุดลูกหูลูกตา ทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม และทางรถไฟลอยน้ำที่ให้ความรู้สึกโรแมนติก นอกจากนี้ช่วงบ่ายยังมีฝูงแพะออกมาหากินซึ่งสามารถเพิ่มความน่ารักให้ภาพของคุณได้อีกด้วย

5. บึงหนองบอน จ.กรุงเทพมหานคร

สำหรับคู่รักที่ไม่อยากเดินทางไกล บึงหนองบอนเป็นโอเอซิสใจกลางกรุงเทพฯ ที่เหมาะกับการถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ด้วยพื้นที่สีเขียวกว้างใหญ่รอบบึงน้ำขนาดใหญ่ มีสะพานไม้ทอดยาวและศาลาริมน้ำที่สร้างบรรยากาศโรแมนติก ยามเช้าและเย็นจะมีหมอกบางๆ ลอยเหนือผิวน้ำ ให้ภาพที่มีมิติและสวยงามแม้จะอยู่ในเมืองหลวง เหมาะสำหรับคู่ที่กำลังวางแผนดูฤกษ์งานแต่งแต่มีเวลาจำกัด

6. อ่างเก็บน้ำทรายทอง จ.นครนายก

อ่างเก็บน้ำทรายทองเป็นอัญมณีซ่อนเร้นของนครนายกที่เหมาะกับการถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้เขียวชอุ่ม ช่วงเช้ามีหมอกปกคลุมสวยงาม มีจุดชมวิวสูงที่มองเห็นอ่างเก็บน้ำได้ทั้งหมด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศแต่เดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมง

7. ไร่ทองสมบูรณ์คลับ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

ปิดท้ายด้วยไร่ทองสมบูรณ์คลับที่เขาใหญ่ สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาและอากาศบริสุทธิ์ บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ มีจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ไฮไลท์คือต้นไม้รูปหัวใจที่คู่รักนิยมมาถ่ายภาพ และยังมีฟาร์มม้าให้ถ่ายภาพร่วมกันได้อีกด้วย เสียค่าเข้าชมเพียงหลักร้อยแต่ได้ภาพสวยคุ้มค่าหลายมุม

สรุปสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติ

การถ่ายพรีเวดดิ้งแนวธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญก่อนถึงวันแต่งงาน ทั้ง 7 สถานที่ที่แนะนำล้วนมีเอกลักษณ์และความสวยงามแตกต่างกันไป คู่รักสามารถเลือกได้ตามสไตล์และความชอบส่วนตัว หลังจากเลือกสถานที่ถ่ายภาพได้แล้ว อย่าลืมเลือก Magic Love House ที่พร้อมให้บริการครบวงจรสำหรับงานแต่งงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานหลากหลายสไตล์ บริการถ่ายภาพ ชุดแต่งงาน และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยแพ็กเกจที่คุ้มค่าและไม่สร้างภาระในการเริ่มต้นชีวิตคู่ของคุณ